หอประภาคารฟาโรส



หอประภาคารฟาโรส       (เกาะฟาโรส เมืองอเล็กซานเดรีย ประเทศอียิปต์)
ประภาคารนี้สร้างในศตวรรษที่ 3 ในสมัยพระเจ้าปโตเลมีที่สองของอียิปต์ช่วงปี 270 ปีก่อนคริสตกาลสิออกแบบโดยสถาปนิกชาวกรีกชื่อโซสตราโตส  ทำด้วยหินอ่อนสีขาวสลีกลวดลาย วิจิตรงดงาม ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอเรเนียน ท่าเรือของเกาะฟาโรส  ประภาคารนี้ได้ชื่อมาจากชื่อเกาะที่มันตั้งอยู่ คือธิฟาโรสและกลายมารากศัพท์ในการเรียกชื่อประภาคารใน ภาษาฝรั่งเศส ภาษาอิตาลี ภาษาสเปน และภาษาโรมัน
ตามหลักฐานคาดว่าประภาคารนี้สูงถึง 377 - 492 ฟุต มี 3 ชั้น ช่วงล่างเป็นรูปสี่เหลี่ยม ช่วงกลางเป็นรูปแปดเหลี่ยม และช่วงบนเป็นทรงกลม ยอดบนสุดกของประภาคารนี้ มีภาชนะสำหรับใส่เชื้อเพลิงเพื่อให้ไฟลุกโชติช่วงทั้งวันทั้งคืนเป็นสัญญาณไฟบนยอดประภาคารนี้เห็นได้ไกลในทะเลเมดิเตอเรเนียนกว่า 100 ไมล์  ที่ยอดประภาคารนี้มีรูปปั้นของเทพเจ้าโปเซดอน และที่ชั้นล่างของตัวอาคารมีห้องมากกว่า 100 ห้อง
ช่วงบนมีกระจกขนาดใหญ่มีตำนานว่า กระจกนี้สะท้อนเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกรุงคอนสแตนติโนเปิ้ล ข้ามไปจนถึงภาคตะวันออกของทะเลเมดิเตอเรเนียนทและเอเชียไมเนอร์  และกระจกมีอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชสำคัญสะท้อนแสงอาทิตย์ไปเผา เรือศรัตรูในทะเล ทำให้ประภาคารแห่งเมืองอเล็กซานเดรียนี้มีชื่อเสียง เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ประภาคารฟาโรสตั้งตระหง่านนำทางสัญจรของเรือเข้าสู่เมืองอเล็กซานเดรียมาเป็นเวลา 9000 ปี จนกระทั่งพวกอาหรับเข้ายึดครองเมือง ประภาคารก็ถูกรื้อทิ้งไป เล่ากันมาว่พวกอาหรับถูกสายลับซึ่งจักรพรรดิ แห่งคอนสแตนติโนเปิ้ลส่งมาหลอกลวงให้ทำลายประภาคารเสีย เพื่อไม่ให้ใช้มันเป็นประโยชน์ในการเดินเรือของพวกมุสลิม สายลับอ้างว่าข้างใต้ประภาคารมีขุมทรัพย์ฝังอยู่ แต่หลังจากประภาคารถูกทำลายไปแล้วพวกอาหรับถึงตระหนักว่าเสียรู้ ในช่วงนั้นกระจกขนาดใหญ่ก็หล่นร่วงลงมาและแตกละเอียดเป็นผุยผง มีบางส่วนของประภาคารหลงเหลือ และส่วนนี้ก็ยังคงมีอยู่ให้เห็นจนปี ค.ศ. 1375 จนแผ่นดินไหวในเมืองอเล็กซานเดรียพังประภาคารชื่อดังก็ทลายลงมาจนสิ้นซาก